มาหาคำตอบกันว่าเราหลับในระยะเวลาที่เหมาะสมและเข้านอนในเวลาที่ควรหรือไม่ เพื่อให้มีสุขภาพดีและพักผ่อนได้อย่างเต็มที่เสมอ
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้นอนหลับในตอนกลางคืนอย่างเต็มอิ่ม แล้วพร้อมรับมือกับวันใหม่โดยไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟ สำหรับหลายๆ คน นั่นหมายถึงการนอนหลับอย่างน้อยคืนละ 7 ชั่วโมง ในขณะที่บางคนอาจต้องการมากกว่านั้น Dr. Cheri D. Mah, MD กล่าว เธอเป็นแพทย์นักวิจัยประจำ UCSF Human Performance Center และสมาชิก Nike Performance Council ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับและประสิทธิภาพของนักกีฬาชั้นนำ
ความจริงที่ไม่น่าประหลาดใจนักก็คือคนส่วนใหญ่นอนหลับไม่เพียงพอแทบจะในทุกคืน Mah บอก ไม่ใช่แค่เวลารวมทั้งหมดของการนอนหลับเท่านั้นที่ส่งผลต่ออารมณ์ สุขภาพ และความฟิตของร่างกาย แต่ยังรวมถึงช่วงเวลาของวันที่เราใช้ไปกับ 7 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นด้วย เธอกล่าวเสริม หากอยากรู้ว่าควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรการนอนหลับหรือไม่ อันดับแรกให้ลองพิจารณาดูว่าเรามีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้หรือไม่
“ยิ่งนอนหลับจนเลยไปถึงเวลากลางวันมากเท่าไหร่ แสงแดดก็จะยิ่งลดประสิทธิภาพในการปรับร่างกายให้ตรงกับนาฬิกาส่วนตัวมากเท่านั้น”
Mariana G. Figueiro
PhD, ศาสตราจารย์
ถ้ามีอาการแบบที่ว่ามา ก้าวต่อไปสู่การนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพก็คือลองทำตามการทดลองง่ายๆ ของ Mah ดู เพื่อช่วยหาคำตอบให้ตัวเองว่าจริงๆ แล้วต้องนอนหลับเยอะแค่ไหน ในวันหยุดหรือวันลาพักร้อนครั้งต่อไป (หรือเมื่อใดก็ตามที่จัดตารางในตอนเช้าให้ยืดหยุ่นได้) ให้กำหนดเวลาเข้านอนที่สม่ำเสมอในแต่ละคืน ปิดนาฬิกาปลุก แล้วดูว่าจะตื่นนอนได้เองตอนกี่โมง หลังจากทำเช่นนี้หลายวันติดต่อกัน ก็จะพอเริ่มจับทางได้ว่าตัวเองต้องนอนหลับกี่ชั่วโมงถึงจะรู้สึกว่าได้พักผ่อนเต็มที่ Mah อธิบาย (แต่ถ้าเกิดจู่ๆ ดันนอนหลับเยอะกว่าปกติ เช่น คืนละ 10 ชั่วโมง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุที่เป็นไปได้ เช่น ความเครียด หรืออาการป่วยอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ Mah กล่าว)
เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองควรจะนอนนานแค่ไหน ก็ให้พยายามเต็มที่ในการเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดิมเป็นประจำ Mah แนะนำ ภาวะ “การนอนหลับแปรปรวน” หรือการนอนหลับได้มากในคืนหนึ่ง ส่วนอีกคืนกลับนอนได้น้อยอย่างเห็นได้ชัด แล้วเกิดขึ้นเป็นประจำ อาจทำให้นาฬิการ่างกายเสียสมดุลและเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมาได้ ซึ่งรวมไปถึงความดันโลหิตสูงและความรู้สึกอ่อนเพลียคล้ายเจ็ทแล็กตลอดเวลา ดังนั้น เว้นแต่จะกดปุ่มเลื่อนปลุกในวันเสาร์เพื่อชดเชยเวลานอนที่สูญเสียไป หรือที่เรียกว่า “หนี้การหลับ (Sleep Debt)” หลังจากสัปดาห์ที่แสนเหน็ดเหนื่อย หรือเนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองมีอาการไม่สบาย การนอนตื่นสายนั้นไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายเราต้องการเลย
มีวิธีหนึ่งที่จะทำให้มั่นใจได้ หากการมุดอยู่ใต้ผ้าห่มนานขึ้นไม่ได้ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น “คุณไม่ควรเข้านอนดึกและตื่นสายแม้ว่าจะทำได้โดยไม่เดือดร้อนอะไร เพราะนั่นอาจทำให้นาฬิกาส่วนตัวรวนได้” Mah กล่าว การเข้านอนเร็วขึ้นจะช่วยปรับนาฬิการ่างกายให้ตรงได้ดีกว่าการตื่นสาย แต่เธอก็บอกว่าควรทำสิ่งที่เหมาะสมกับตารางกิจวัตรของตัวเองมากที่สุด
อย่าลืมว่า การนอนหลับควรจะช่วยในการพักฟื้น ฟื้นฟู และเตรียมพร้อมรับวันใหม่ แต่หากว่าไม่เป็นเช่นนั้น ก็อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในจุดนี้
เรียบเรียงโดย Ronnie Howard
ภาพประกอบโดย Matt Williams
รับประโยชน์ที่มากขึ้น
เข้าแอพ Nike Training Club แล้วดูคำแนะนำที่รับรองโดยผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมได้เลยทั้งในด้านการฟื้นกำลัง รวมถึงทัศนคติ การเคลื่อนไหว โภชนาการ และการนอนหลับ
รับประโยชน์ที่มากขึ้น
เข้าแอพ Nike Training Club แล้วดูคำแนะนำที่รับรองโดยผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมได้เลยทั้งในด้านการฟื้นกำลัง รวมถึงทัศนคติ การเคลื่อนไหว โภชนาการ และการนอนหลับ