ไม่เคยหยุดทิ้งร่องรอยความสำเร็จ

Department of Nike Archives

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีโลโก้ไอคอนิกของ Nike เราได้มองย้อนกลับไปถึงความเป็นมาและรูปร่างหน้าตาของโลโก้ ซึ่งตอนแรกไม่ได้มีความยิ่งใหญ่อย่างที่ใครหลายคนคิด

อัพเดทล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2565
ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

ถ้าคุณคือคนส่วนใหญ่ เวลาได้ยินคำว่า Nike สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือภาพ Swoosh ที่ทุกคนรู้จัก นี่คือหนึ่งในโลโก้ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกโดยที่ตัวมันเองก็มีความหมายมากมาย เป็นทั้งสัญลักษณ์ของหลักการและประสิทธิภาพ นวัตกรรมและการแหวกขนบ ความคิดสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลง

ไม่เคยหยุดทิ้งร่องรอยความสำเร็จ: Swoosh
ไม่เคยหยุดทิ้งร่องรอยความสำเร็จ: Swoosh

โลโก้ถูกทำเป็นภาพประกอบ นำไปดัดแปลงเป็น 3D ถูกใช้เป็นลายทรงผม แทททูบนร่างกาย และถูกนำไปรีมิกซ์อย่างสร้างสรรค์จนกลายเป็นรูปแบบสุดบรรเจิดมากมายด้วยฝีมือของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ล่วงลับไปแล้วอย่าง Virgil Abloh ผู้ซึ่งยอมแหวกแนวปฏิบัติของแบรนด์เพื่อทำโลโก้ให้บิดเบี้ยวผิดรูปในเวอร์ชันเพ้นท์สีบน Off-White Zoom Tempo Solar Red ขณะเดียวกันก็มีผู้นำด้านแฟชั่น ดนตรี กีฬา และวัฒนธรรมอีกหลายคนที่ได้ออกแบบรังสรรค์โลโก้นี้ในการร่วมงานโอกาสต่างๆ กับ Nike

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้ามีใครเข้าใจว่าคงใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรืออาจเป็นเดือนๆ กว่าจะคิดค้นเจ้าไอคอนตัวนี้ออกมาได้ หรืออาจจะมีตัวแทนดีไซเนอร์นั่งล้อมวงเป็นทีมเพื่อคิดคอนเซปต์ วาดรายละเอียด พูดคุยถกเถียง แล้วแก้งานซ้ำ วนลูปแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย

ไม่เคยหยุดทิ้งร่องรอยความสำเร็จ: Swoosh
ไม่เคยหยุดทิ้งร่องรอยความสำเร็จ: Swoosh

ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์อย่าง Phil Knight เพียงแค่บรีฟงานไว้หยาบๆ แล้วส่งหน้าที่ในการออกแบบไปอยู่ในมือของนักศึกษากราฟิกดีไซน์คนหนึ่งจากมหาวิทยาลัย Portland State University นาม Carolyn Davidson และเนื่องจากกำหนดเวลาของการผลิตงานค่อนข้างกระชั้นชิด ทำให้การฟีดแบ็กงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตรงไปตรงมา และไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นมากนัก

เธอมาถึงห้องประชุมที่โอเรกอน ห้องเล็กๆ ซึ่งดูไม่มีอะไรน่าสนใจ ประวัติศาสตร์บรรยายลักษณะห้องไว้หลายเวอร์ชัน บ้างก็ว่าเป็นแค่ห้องกลมๆ บ้างก็ว่าเล็กเท่ารูหนู (แล้วแต่ว่าใครจะมองอย่างไร) ซึ่งนอกเหนือจาก Swoosh ก็ยังมีชิ้นงานอีก 4 แบบที่พอจะมีแววแต่ดันถูกปัดตกไป ทำให้ Swoosh จับพลัดจับผลูขึ้นมาเป็นโลโก้ ไม่ได้มีเสียงชื่นชมดังกระหึ่มอะไรแบบนั้น ท่าทีลังเลใจซึ่งเป็นรีแอกชันแรกของ Knight จึงเป็นที่โจษจันมากในวันนี้

"จริงๆ แล้วผมไม่ได้ชอบ แต่เดี๋ยวก็คงชอบไปเอง"

Phil Knight

นั่นคือจุดเริ่มต้น จริงๆ ตอนนั้นเราตั้งชื่อมันว่า "The Stipe" ด้วยซ้ำ ซึ่งทุกวันนี้ Carolyn ก็ยังเรียกแบบนั้นอยู่ เราพามันบินข้ามฟากไปที่กัวดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก เพื่อพามันเข้าสู่กระบวนการผลิต ทุกคนรีบร้อนจะไปให้ทันเวลากันจนไม่มีใครคิดจะเก็บกวาดห้องหลังประชุมเสร็จ เพราะชิ้นงานแบบวาดมือก็เพียงพอสำหรับการเริ่มขั้นตอนผลิตรองเท้าแล้ว

เรื่องราวที่เหลือก็เป็นไปตามประวัติศาสตร์ อย่างที่ทุกคนได้ยิน และอย่างที่พวกเราเห็นในตอนนี้ Swoosh ได้ขึ้นสู่การเป็นไอคอนทางวัฒนธรรม การร่างดีไซน์บนกระดาษทิชชูนานหลายสัปดาห์ของ Davidson ได้สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใคร ณ ที่นี้จะจินตนาการได้

คลิปด้านบนมีเรื่องราวมากกว่านี้ที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับโลโก้ที่ทุกคนในวันนี้รู้จัก อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากโลโก้ระดับตำนานนี้ คำตอบคงขึ้นอยู่กับคุณแล้ว แต่คอยติดตาม Nike บนช่องทาง Instagram ไว้ให้พร้อมเพราะคุณอาจเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากำลังร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปีนี้อยู่ก็ได้

ดารารับเชิญ: A’ja Wilson, Ada Hegerberg, Bebe Vio, Chen Ye, Chloe Kim, Dina Asher-Smith, Dirk Nowitzki, Dylan Alcott, Faith Kipyegon, Feng Chen Wang, G Dragon, Giannis Antetokounmpo, Mia Hamm, Oksana Masters, Quinn, Ricardo Pepi, Ronaldinho, Sabrina Ionescu, Sophie Hahn, Virgil Abloh, Wang Shuang, Yoon Ahn และ Yuto Horigome

ไม่เคยหยุดทิ้งร่องรอยความสำเร็จ: Swoosh

เผยแพร่ครั้งแรก: 1 พฤษภาคม 2565

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

หัวขบถผู้ไม่เคยยอมแพ้

Department of Nike Archives

ความขบถไม่เคยหยุดยั้ง

ไม่เคยหยุดท้าทายขนบเดิมๆ: Circa 72

Department of Nike Archives

ไม่เคยหยุดท้าทายกรอบคิดเดิมๆ

ไม่เคยหยุดพัฒนา: Pegasus: ม้าเร็วแห่งการวิ่ง

Department of Nike Archives

ไม่เคยหยุดทำซ้ำ

ไม่เคยหยุดพุ่งทะยาน: การกำเนิดของฟุตบอลหญิง

Department of Nike Archives

ไม่เคยหยุดพุ่งทะยาน

ไม่เคยหยุดตั้งคำถาม: NSRL

Department of Nike Archives

ไม่เคยหยุดตั้งคำถาม