พุ่งปะทะคติเหมารวม: นักรักบี้เม็กซิกันผู้ท้าชนกับความคิดแบบเดิมๆ
นักกีฬา*
María Pruijn แสดงพลังและความแข็งแกร่งผ่านกีฬาที่ไม่นิยมเล่นกันในเม็กซิโก โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิง

“Snap Shots” คือซีรีส์ที่เข้าไปพูดคุยกับนักกีฬาในละแวกบ้านจากทั่วโลก
“เก็บภาพเรื่องราว” คือซีรีส์ที่เข้าไปพูดคุยกับนักกีฬาในละแวกบ้านทั่วโลก
หากลองนึกภาพผู้เล่นรักบี้สักคน ภาพในหัวของคนส่วนใหญ่คงไม่ได้นึกถึงผู้เล่นที่เป็นหญิงสาวโดยทันที María Pruijn จึงพยายามที่จะเปลี่ยนภาพจำเหล่านั้น เธอคือหญิงสาวอายุ 22 ปีจากเม็กซิโก ซิตี้ ที่เป็นทั้งช่างภาพและนักกายภาพบำบัดฝึกหัด María เลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้เพื่อปะทะกับชุดความคิดแบบเดิมๆ และพุ่งชนกับความคิดเหยียดเพศที่ยังพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งสำหรับเธอนั้น ทุกความฉงนสงสัยที่แสดงออกผ่านสีหน้าที่เลิกคิ้วขึ้นนั้นไม่มีผลอะไรเลย นอกจากจะเป็นการเติมเชื้อไฟแห่งเป้าหมายในการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า ผู้หญิงก็มีที่หยัดยืนในวงการกีฬาได้ ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบใดก็ตาม
เราพบกับ María ที่สนามดินประจำทีมของเธอหลังจากจบช่วงซ้อมในวันฝนตก ระหว่างที่เธอกำลังเก็บอุปกรณ์ต่างๆ อยู่นั้น เราก็ได้พูดคุยกับเธอถึงเรื่องกีฬาว่ามีส่วนช่วยให้เธอเข้าใจบทบาทของตนต่อโลกใบนี้และรู้จักตัวเองมากขึ้นอย่างไรบ้าง

เวลาที่คนอื่นรู้ว่าคุณเล่นรักบี้ พวกเขามีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง
ปฏิกิริยาที่ฉันเจอบ่อยที่สุดคือความช็อกค่ะ ซึ่งก็ไม่ใช่ความช็อกในแง่ร้ายเสมอไป เช่นแบบว่า “โห แทบไม่เคยเห็นคนเล่นกีฬานี้เลยนะ ยิ่งผู้หญิงนี่แทบจะไม่เคยได้ยินเลย” ฉันถือว่าโชคดีที่พ่อแม่คอยสนับสนุนมาตั้งแต่เริ่มเล่น และฉันก็เข้าใจด้วยว่ามีเด็กหญิงคนอื่นๆ ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเล่นรักบี้ เพราะพ่อของพวกเธอบอกว่ากีฬานี้เป็นกีฬาสำหรับผู้ชาย
สิ่งหนึ่งที่ฉันพบก็คือ คนอื่นมักจะตัดสินว่ารูปร่างของฉันไม่เหมาะกับการเล่นรักบี้ เขาคิดว่าฉันคงกระดูกหักไปครึ่งตัวแน่ๆ ถ้าไปลงเล่นในสนาม แต่พอได้เริ่มเล่นจริงๆ คุณจะรู้ว่า ไม่มีรูปร่างแบบไหนเลยที่เป็นอุปสรรคต่อการเล่นหรือเป็นจุดด้อยของร่างกาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ รูปร่างของเราจะเหมาะกับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในการแข่งอยู่แล้ว ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นระบบและฝึกหนักมากพอ

แล้วคุณเล่นในตำแหน่งไหน
ตำแหน่งหลักของฉันคือฟลายฮาล์ฟค่ะ ในกีฬารักบี้ ทีมหนึ่งจะมีผู้เล่น 15 คน แบ่งเป็นกองหน้า 8 คนและกองหลัง 7 คน ผู้เล่นกองหลังจะต้องวิ่งสปรินท์มากที่สุด ต้องหลบหลีกคู่ต่อสู้และส่งลูก ส่วนกองหน้าจะต้องใช้ร่างกายปะทะมากกว่า ต้องพุ่งชนกับคู่ต่อสู้ ซึ่งตำแหน่งของฉันจะเหมือนเป็นจุดเชื่อมระหว่างการเป็นกองหน้าและกองหลังของทีม
ในเม็กซิโก รักบี้ไม่ใช่กีฬาที่นิยมกันในหมู่คนทั่วไปเลย แล้วคุณมาเริ่มเล่นได้อย่างไร
ฉันรู้จักรักบี้ครั้งแรกจากการดูหนังในโรงเมื่อปี 2009 ตอนนั้นฉันดูเรื่อง Invictus
แล้วนี่คือที่ซ้อมประจำของทีมคุณเลยหรือเปล่า
เมื่อก่อนเราก็ไปฝึกซ้อมที่อื่นเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้ที่นี่เป็นสนามฝึกซ้อมประจำของเรา สนามอาจไม่ได้ดีเลิศอะไรเพราะว่าไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นรักบี้โดยเฉพาะ และถึงแม้ว่าสนามนี้จะไม่มีหญ้า ไม่มีตู้ล็อกเกอร์ให้เราเก็บสัมภาระหรืออุปกรณ์ต่างๆ แต่ก็เป็นสนามที่ถูกที่สุดที่หาได้ แล้วเราก็มาฝึกซ้อมที่นี่ได้ทุกวันด้วย อีกอย่าง สนามนี้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย เดินทางสะดวก ซึ่งสำหรับทีมหญิงล้วน สิ่งสำคัญก็คือความรู้สึกปลอดภัยเวลากลับบ้านหลังเลิกซ้อม และถ้าเป็นที่นี่ เราจะไม่ต้องเดินอยู่ในที่มืดๆ นานๆ กว่าจะถึงสถานีรถไฟใต้ดินในขากลับ แล้วถ้ามีฝนตกแบบวันนี้ เราก็... อืม เราต้องคิดในแง่ดีเข้าไว้ เพราะเวลาที่เราจะต้องลงแข่งจริงในสนามที่มีหญ้าขึ้นสวย บวกกับอากาศที่เป็นใจ เราก็จะบอกกันในทีมได้ว่า “หวานเลยแมทช์นี้” เพราะเราฝึกซ้อมในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยกันเป็นปกติอยู่แล้ว
“ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้”

ทำไมคุณถึงชอบเล่นรักบี้
ความรู้สึกว่าตัวเองทำได้ทำให้ฉันมีพลังค่ะ ฉันมั่นใจว่าตัวเองวิ่งไวกว่าคนอื่น ไวจนไม่มีใครตามทัน ไม่มีใครผลักฉันให้ล้มลงได้ และถ้าอยากแท็กเคิลใคร ฉันสามารถทำได้อย่างรุนแรง การมองเห็นว่าร่างกายตัวเองมีพละกำลังในการทำสิ่งต่างๆ นั้นช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตั้งเป้าหมายอื่นๆ ในชีวิตของฉันได้ด้วย จากคนที่มีรูปร่างผอมมาโดยตลอด กลายมาเป็นคนที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า “ฉันแท็กเคิลคนอื่นให้ล้มลงได้ และไม่มีใครแท็กเคิลฉันได้” หรือแม้กระทั่ง “ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้” เป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นและมีความหมายมากจริงๆ ค่ะ
นอกจากด้านร่างกายแล้ว รักบี้ช่วยเปลี่ยนแปลงตัวคุณในแง่มุมอื่นๆ บ้างไหม
เยอะเลยค่ะ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วรักบี้คือกีฬาที่เล่นเป็นทีม และฉันมักจะคิดอยู่เสมอว่า “ฉันเก่งกว่านี้ได้อีกเป็นพันเท่าเลยนะ แต่จะไปมีความหมายอะไรถ้าความเก่งนี้ไม่สามารถช่วยทีมของฉันได้” ความคิดนี้เป็นสิ่งที่ฉันพยายามปรับใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเองเหมือนกัน ฉันอยากเป็นคนดีคนหนึ่งที่สามารถทำอะไรดีๆ ให้กับโลกใบนี้ได้ ไม่ใช่แค่เป็นคนดีเพื่อเอาไว้ปลอบใจตัวเองว่าเราก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ ซึ่งในกีฬารักบี้ ถ้าคุณไม่มีความคิดที่จะทำเพื่อทีมเลย ก็จะทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ได้สักอย่าง
เรียบเรียงโดย Karina Zatarain
ภาพถ่ายโดย Darryl Richardson
รายงานเมื่อ: กันยายน 2020