พัฒนาความทรหดของคุณด้วยการพูดกับตัวเอง

การโค้ชและโภชนาการ
อัพเดทล่าสุด: 1 มิถุนายน 2563

โดย Nike Training

เปลี่ยนกรอบวิธีการพูดกับตัวเองใหม่

เป็นสุดยอดพันธมิตรของตัวเอง

ไม่ใช่แค่คุณหรอก ใครๆ ก็พูดกับตัวเองทั้งนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณบอกเกี่ยวกับตัวเองในหัว และการฝึกคำพูดของเจ้าเสียงเล็กๆ ในหัวนี่แหละคือกุญแจสำคัญ เพราะ “การพูดกับตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยพัฒนาความมั่นใจ ในขณะเดียวกัน การพูดอย่างไม่เหมาะสมจะบั่นทอนความมั่นใจค่ะ” Angela Duckworth กล่าว เธอเป็นอาจารย์ประจำ University of Pennsylvania และเจ้าของหนังสือ “Grit: สิ่งที่ต้องมี…เมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต” (Grit: The Power and Passion of Perseverance) ต่อไปนี้คือเหตุผลที่การพูดกับตัวเองทำให้ความทรหดของคุณเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่ยากกว่าเดิมได้

“คนที่เก่งและไม่เก่งต่างก็มีคำพูดวิ่งวนในหัวกันทั้งนั้น ความแตกต่างคือปกติแล้วพูดคำว่าอะไร”

Angela Duckworth

ลองจินตนาการว่าคุณเล่นได้ไม่ค่อยดีหรือทำผลงานแย่ๆ แล้วหลังจากนั้นก็เอาแต่พูดกับตัวเองในแง่ลบ พาตัวเองจมสู่วังวนของความอับอาย คำวิจารณ์ และการเกลียดตัวเอง” เธอกล่าว หลักการเดียวกับเวลาคุณทำผิดพลาดในเรื่องอื่นๆ เช่น พลาดการออกกำลังกาย หรือทานอาหารที่คุณเองมารู้สึกเสียใจในภายหลัง การบอกตัวเองว่าแย่มาก ยังไงก็ไม่มีทางทำได้ คงจะไม่ใช่แรงกระตุ้นที่ดีเท่าไรในการที่จะลุกกลับมาสู้ต่อ การพูดกับตัวเองในแง่ลบจะทำให้คุณรู้สึกปวดใจกับตัวเองมากจนไม่อยากจะพยายามอีกครั้ง แล้วก็จบลงที่การดึงตัวเองออกห่างจากเป้าหมายไกลกว่าเดิม

ผลงานวิจัยของ Duckworth ได้ค้นพบกลยุทธ์การพูดกับตัวเองในแง่บวก 2 ส่วนที่จะทำให้คุณกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง ส่วนแรกคือการยอมรับตรงๆ ไม่ต้องตัดสินหรือใส่ความ แค่รับรู้ในความไม่สมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเมื่อวานนี้ตัวเองเผลอนอนจนเลยเวลาออกกำลังกาย ส่วนที่ 2 คือการเห็นอกเห็นใจตัวเอง ในขั้นตอนนี้ “คิดถึงสิ่งที่คุณแม่ เพื่อนสนิท หรือใครก็ตามที่รักคุณน่าจะพูดเวลาคุณทำอะไรพลาด” Duckworth แนะนำ คำพูดของพวกเขาน่าจะไปในทาง “เห็นใจ เอ็นดู แง่บวก และเข้าใจ” ในขณะเดียวกันก็ไม่ปล่อยให้คุณยอมแพ้ แล้วจะยิ่งดีถ้าคิดในตอนนั้นด้วยว่า “ได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้และวางแผนว่าจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไรในครั้งต่อไป” จากนั้นพยายามพูดทั้งหมดนี้กับตัวเอง ในทางปฏิบัติ อาจจะออกมาในลักษณะนี้ เช่น รู้สึกผิดหวังที่เมื่อวานหลับเพลิน ไม่ยอมออกกำลังกาย แต่นี่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วที่ผ่านมาก็ทำตามเป้าหมายได้ดีมาตลอด เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้น 10 นาที ถึงจะกดปิดไปรอบนึง ก็ยังพอมีเวลาให้ออกกำลังกายได้ นี่แหละคือจอมทรหดที่ฟื้นตัวได้ไวและเดินหน้ามุ่งมั่นต่อได้ทันที

เปลี่ยนกรอบวิธีการพูดกับตัวเองใหม่

แม้แต่นักกีฬาอาชีพอย่าง Shalane Flanagan นักวิ่งระยะไกลผู้คว้าแชมป์รายการ New York City Marathon ปี 2017 และได้ครองเหรียญเงินโอลิมปิกปี 2008 ก็ยังมีบ้างเป็นบางครั้งที่ติดอยู่ในวังวนของการพูดกับตัวเองในแง่ลบ ระหว่างการวิ่งเทรนนิ่งอย่างหนักหนาสาหัส เธอรู้สึกเหนื่อยและร่างกายระบมไปทั้งตัว ในตอนนั้นบางครั้ง Flanagan ก็ได้ยินเสียงของตัวเธอเองที่เบนไปทางแง่ลบ “แค่นี้ยังเก่งไม่พอ ความสามารถยังไม่ได้ ยังซ้อมไม่หนักพอ” เธอยอมรับ แต่เพราะรู้ว่ากำลังพูดอยู่กับตัวเอง สัญญาณเตือนภัยจึงดังขึ้น เธอตัดสินใจเปลี่ยนคำพูดในหัวอย่างมีสติ

“ฉันมองจิตใจเหมือนเป็นกล้ามเนื้อที่ยังต้องเทรนนิ่งค่ะ”

Shalane Flanagan

“เรื่องนี้ไม่ได้มาเองโดยธรรมชาติ แต่มาจากการตัดสินใจเลือกว่าตัวเองจะมองโลกในแง่ดีค่ะ” เธอกล่าว “ฉันบอกตัวเองว่า Shalane ตอนนี้แหละ เธอต้องพยายามให้หนักขึ้นและน้อมรับความลำบากของการออกกำลังกาย สิ่งที่แยกคนหัวกะทิออกจากคนปกติ แม้ในหมู่นักกีฬาชั้นแนวหน้าก็ตาม คือทัศนคติและจิตวิทยาในการจัดการกับอุปสรรค “ฉันมองจิตใจเหมือนเป็นกล้ามเนื้อที่ยังต้องเทรนนิ่งค่ะ”

การเปลี่ยนวิธีพูดกับตัวเองไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ข้ามคืนเหมือนการสับสวิตช์ แต่เป็นงานใช้เวลาที่จะค่อยๆ เร็วขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้นในแต่ละครั้งที่ฝึกฝน แล้วในเวลาไม่นาน คุณก็จะดึงพลังแห่งเชียร์ลีดเดอร์ภายในตัวออกมาใช้ได้ คอยดูเลยว่าพลังนี้จะช่วยให้คุณพิชิตได้ทุกความท้าทายที่เจอ

เราขอท้าให้คุณพัฒนาการพูดกับตัวเองเพื่อขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า ขอให้ถือโอกาสนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่จะให้คาถาพลังบวกสำหรับการออกกำลังกายครั้งถัดไปของคุณ

ทำให้เป็นนิสัย: บ่อยครั้งส่วนที่ยากที่สุดของการออกกำลังกายก็คือการเริ่มออกกำลังกายนี่แหละ ดังนั้น ก่อนที่กำลังจะเริ่มออกกำลังกายใน NTC ลองท่องคาถาพลังบวกกับตัวเองออกมาดังๆ เช่น “ผ่านส่วนที่ยากที่สุดมาได้แล้วนะ” แล้วตีมือไฮไฟว์ยินดีในใจกับตัวเองเพื่อสร้างแรงกระตุ้นและความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง พอถึงคราวลำบากระหว่างออกกำลังกาย ก็ให้กลับไปท่องคาถานั้นอีกรอบ “ผ่านส่วนที่ยากที่สุดมาได้แล้วนะ” การทำแบบนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจที่เป็นแรงผลักดันให้ผ่านช่วงเวลานั้นไป และช่วยให้คุณได้ชัยชนะมาอย่างแข็งแกร่ง

เปลี่ยนกรอบวิธีการพูดกับตัวเองใหม่

เข้าร่วม Nike Training Club

เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญและเทรนเนอร์ระดับโลกของเราเพื่อช่วยให้คุณคงความแอ็คทีฟและสุขภาพดีไว้เสมอ

เปลี่ยนกรอบวิธีการพูดกับตัวเองใหม่

เข้าร่วม Nike Training Club

เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญและเทรนเนอร์ระดับโลกของเราเพื่อช่วยให้คุณคงความแอ็คทีฟและสุขภาพดีไว้เสมอ

เผยแพร่ครั้งแรก: 17 เมษายน 2563